แสงแห่งความดีในดินแดนใต้ “ศธ. จิตอาสา บำเพ็ญประโยชน์เพื่อฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ” สร้างเยาวชนที่เรียนดี มีความสุข ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ

แสงแห่งความดีในดินแดนใต้​ “ศธ. จิตอาสา บำเพ็ญประโยชน์เพื่อฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ” สร้างเยาวชนที่เรียนดี มีความสุข ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำแสงแห่งความดีในดินแดนใต้ “ศธ. จิตอาสา บำเพ็ญประโยชน์เพื่อฟื้นฟูหลังภัยพิบัติ” สร้างเยาวชนที่เรียนดี มีความสุข ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ

เช้าวันจันทร์ที่​ 20​ มกราคม​ 2568​ แดดยามเช้าแผ่คลุมบนสนามหญ้าเขียวขจีของโรงเรียนบ้านนาทวี อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา เสียงหัวเราะของกลุ่มเด็ก ๆ และเยาวชนก้องไปทั่วบริเวณ เสียงนั้นมาจากลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาดที่กำลังรวมตัวกันอย่างพร้อมเพรียง รวมพลังสร้างสรรค์ความดีถวายแด่ในหลวง รัชกาลที่ 10 เพื่อเฉลิมพระเกียรติเนื่องในพระราชพิธีสมมงคล​ พระชนมายุเท่าพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช​ สมเด็จพระปฐมบรมกษัตริยาธิราช แห่งราชวงศ์จักรี พุทธศักราช 2568​

กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้มีแค่เยาวชนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงพนักงานเจ้าหน้าที่ส่งเสริมความประพฤตินักเรียนและนักศึกษา จิตอาสา 904 ผู้แทนจากสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัดต่าง​ ๆ ผู้​แทนของสำนักงาน​ศึกษาธิการจังหวัดสงขลา ยะลา​ ปัตตานี​ นราธิวาส จิตอาสาตำรวจตระเวนชายแดน และข้าราชการจากกระทรวงศึกษาธิการ มาพร้อมด้วยความตั้งใจเดียวกัน คือการสร้างพลังความสามัคคี ฟื้นฟูโรงเรียนหลังภัยพิบัติ โดยก่อนหน้านี้​ที่นี่เคยเงียบเหงาและเต็มไปด้วยร่องรอยของพายุฝนที่พัดพาทุกสิ่งจนดูเหมือนถูกทิ้งร้าง แต่วันนี้มันกลับเต็มไปด้วยชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

นายอำนาจ สายฉลาด ผู้อำนวยการสำนักการลูกเสือ ยุวกาชาด และกิจการนักเรียน สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันที่เรามาเพื่อแสดงพลังแห่งความดีและความสามัคคี เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล เรามาทำสิ่งนี้ด้วยหัวใจ และเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของการเสียสละและการบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคม

ดังที่​ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เคยบอก​ไว้​ว่า​ กระทรวงศึกษาธิ​การให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับกิจกรรมจิตอาสาของลูกเสือ เนตรนารี และยุวกาชาด โดยมองว่ากิจกรรมเหล่านี้เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเยาวชนให้เป็นคนดี มีคุณธรรม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการที่เน้นเรื่อง​

“เรียนดี มีความสุข” “ทำดี ทำได้ ทำทันที” และ “ฉลาดรู้ ฉลาดคิด ฉลาดทำ”

ครั้งหนึ่ง​ พล.ต.อ.เพิ่มพูน​ เคยกล่าวว่า การบำเพ็ญประโยชน์ในรูปแบบจิตอาสาเป็นการเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เรียนรู้และฝึกฝนตนเองผ่านการปฏิบัติจริง เช่น การช่วยเหลือชุมชน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการฟื้นฟูพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ กิจกรรมเหล่านี้ช่วยหล่อหลอมให้เยาวชนมีความเสียสละ มีน้ำใจ และรู้จักการทำงานเป็นทีม สิ่งสำคัญคือเยาวชนไม่ได้เรียนรู้แค่การให้ แต่ยังได้พัฒนาทักษะชีวิต เช่น การวางแผน การแก้ปัญหา และการสื่อสาร ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในโลกยุคปัจจุบัน เยาวชนที่เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้การอยู่ร่วมกับผู้อื่น ฝึกการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และสัมผัสถึงความสุขที่เกิดจากการได้ทำสิ่งดี ๆ เพื่อส่วนรวม นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสให้เด็กและเยาวชนค้นพบศักยภาพในตัวเอง ซึ่งอาจนำไปต่อยอดในการเรียนและการทำงานในอนาคต

หลังจากพิธีเปิดโครงการ​อย่างเป็นทางการ​เสร็จ​สิ้น​ กิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์เริ่มต้นขึ้นต่อทันที ทุกคนต่างจับจอบ จับไม้กวาดด้วยความกระตือรือร้น ลูกเสือโรงเรียนบ้านนาทวีจับกลุ่มกันขนดินและปรับพื้นสนามที่เคยถูกน้ำเซาะจนเป็นหลุมเนิน ด้านยุวกาชาดโรงเรียนนาทวีวิทยาคม ก็ช่วยกันทาสีพื้นที่ต่าง​ ๆ​ ที่ซีดจางให้กลับมาสดใสเหมือนใหม่อีกครั้ง ในขณะที่กลุ่มเนตรนารีช่วยกันปลูกต้นไม้ เพิ่มสีเขียวให้โรงเรียน ทุกคนทำงานอย่างขยันขันแข็งแม้แดดช่วงกลางวันจะร้อนแรงมากก็ตาม

“พวกเราขุดเจอสัตว์​โบราณ​เข้าแล้ว!” นาวิก​ แก้วอรุณ​ ลูกเสือชั้น​ ป.3​ ตะโกนลั่นพร้อมโชว์​ไส้เดือน​ให้เพื่อน​ ๆ​ ดู​ เสียงหัวเราะดังขึ้นจากกลุ่มลูกเสือที่กำลังขุดหลุมสำหรับปลูกต้นไม้ นาวิกบอกว่า​ ” เราต้องขุดดินอย่างระวังเพื่อไม่ให้ไปโดนตัวไส้เดือน​ พอปลูกต้นไม้​เสร็จ​แล้ว​ก็ปล่อยไส้เดือน​ลงดินตามเดิมได้​ ไส้เดือนจะช่วยพรวนดินให้เราอีกแรง”

ไม่เพียงแค่การซ่อมแซมโรงเรียนเท่านั้น แต่ยังมีการมอบสิ่งของและอุปกรณ์การเรียนให้แก่โรงเรียนในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ เด็ก ๆ ในโรงเรียนต่างดีใจที่ได้รับหนังสือเล่มใหม่และอุปกรณ์การเรียนที่จำเป็น

และก่อนที่กิจกรรม​จิตอาสา​บำเพ็ญ​ประโยชน์​จะสิ้นสุดลงในช่วงเย็น​ นายอำนาจได้กล่าวขอบคุณ​ทุกฝ่าย​ โดยเฉพาะ​คณะครูโรงเรียน​บ้าน​นาทวี​ ศึกษาธิการ​จังหวัด​สงขลา​ ที่ช่วยกันเตรียม​ความพร้อม​ล่วงหน้า​จนเราสามารถ​จัดกิจกรรม​ที่ยิ่งใหญ่​ได้อย่างวันนี้​ พร้อมกับกล่าวทิ้งท้าย​ว่า​

“กิจกรรมจิตอาสานี้ไม่ใช่เพียงการบำเพ็ญประโยชน์ แต่เป็นการสร้างความสามัคคี ความรัก และความเสียสละในหัวใจของเด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นอนาคตของชาติ เมื่อมองย้อนกลับไป แม้แต่ความเหน็ดเหนื่อยก็กลายเป็นความทรงจำที่มีค่า และทุกคนจะกลับบ้านด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจในสิ่งที่ได้ทำเพื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ เพื่อชุมชน และเพื่อประเทศชาติ

//////////////////

สำนัก​การลูกเสือ​ ยุว​กาชาด​ และ​กิจการ​นักเรียน​ สำนักงาน​ปลัด​กระทรวง​ศึกษาธิการ​/บทความ​-ภาพถ่าย